คืนหลอนบนเขาพับผ้า #เขาพับผ้า #จังหวัดตรัง #นั่งห้าง #ป่าอาถรรพ์ #ทหารชายแดน #Ghostdevill

ความเป็นมาของเขาพับผ้า (Ghostdevill) ในจังหวัดตรังได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เยาวชนและนักท่องเที่ยวหันมาสนใจและตื่นเต้นที่จะสำรวจพื้นที่ที่น่าขวัญนี้ บทความนี้จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์เหนือความธรรมดา ที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดในจังหวัดตรัง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งห้างในป่าอาถรรพ์หรือตะลุยทหารชายแดน เข้าใจถึงว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นที่ต้องการของคนหลายคน พร้อมกับการแนะนำสถานที่และข้อควรระวังในการสำรวจเขาพับผ้าในจังหวัดตรัง

Table of Contents

เกิดความตื่นเต้นใหม่กับเขาพับผ้า

คืนนั่งห้าง ออกล่าเสือที่มาจากภูเขาไพรสัณฑ์ - YouTube

เขาพับผ้าเป็นสถานที่สะท้อนความลึกลับและสืบทอดตำนานที่มีมาตั้งแต่ยุคโบราณ ภูมิภาคนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าหลอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตอย่างเศร้าหรือเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับสิ่งประหลาดที่อยู่อาศัยในเขาพับผ้า ความลึกลับและสิ่งลึกลับที่ปรากฏให้เห็นในพื้นที่นี้เป็นที่จับตามองของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

สถานที่สำคัญที่ควรสำรวจ

คืนป่าปิด" ทหารพรานใต้เกือบได้เป็นผีเฝ้าป่าดงดิบ | หลอนตามสั่ง EP.84 |  nuenglc - YouTube

1. ป่าอาถรรพ์ในเขาพับผ้า

เขาพับผ้ามีป่าที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่ามากมาย นอกจากนี้ยังมีความหลอนของเสียงที่ได้ยินเมื่อเข้าไปในป่าในเวลาค่ำคืน ควรเตรียมตัวให้ดีเมื่อเดินทางเพื่อสำรวจป่าอาถรรพ์ในเขาพับผ้า การเดินทางควรทำเป็นกลุ่มและมีพี่เลี้ยงคอยคุ้มครองเพื่อความปลอดภัยในการสำรวจแห่งนี้

2. นั่งห้างที่น่าตื่นเต้น

เมื่อคุณเข้าถึงเขาพับผ้า อย่าพลาดที่จะนั่งห้างในพื้นที่น่าตื่นเต้นแห่งนี้ นั่งห้างเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่คุณควรลอง เป็นการให้ความรู้สึกกับความสงบ และพลังงานบวกที่ได้จากการร่วมกันนั่งห้าง ไม่ว่าจะเป็นนั่งห้างคู่กันหรือกลุ่มเพื่อสร้างความสนุกสนานที่น่าจดจำ

3. ตะลุยทหารชายแดน

เขาพับผ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเชื่อมั่นทางทหาร ทหารชายแดนคอยคุ้มครองเขาพับผ้าจากการบุกเบิกของนักท่องเที่ยว การตะลุยทหารชายแดนให้ทราบเกี่ยวกับการเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่นี้ อย่าลืมขออนุญาตและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับจากทหารชายแดนเสมอ

ควรระวังในการสำรวจเขาพับผ้า

นั่งห้าง เขาคันทรง อาถรรพ์ป่าผี ตำนานจากผู้เฒ่าพันธ์ - YouTube

  1. เตรียมตัวให้ดี: การเดินทางไปยังเขาพับผ้าต้องการการเตรียมตัวที่ดี เนื่องจากภูมิภาคนี้มีลักษณะธรรมชาติที่หลากหลาย ควรเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ รวมถึงอุปกรณ์เสริมเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง
  2. อย่าเดินทางคนเดียว: เพื่อความปลอดภัยควรเดินทางเป็นกลุ่ม อย่าเดินทางคนเดียวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
  3. ไม่ควรใกล้ชิดสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จัก: ในเขตป่าอาจมีสัตว์ที่อาจเป็นอันตราย ควรหลีกเลี่ยงใกล้ชิดสัตว์ที่ไม่รู้จักและติดต่อผู้ควบคุมสัตว์หากเกิดอาการผิดปกติ
  4. ระวังจากบุคคลแปลกหน้า: ในเขตเขาพับผ้าอาจมีบุคคลที่แปลกหน้าที่อาจมีแผนการที่ไม่ดีในการต่อสู้ควรเก็บรักษาสิ่งต่างๆที่เป็นความลับหรือสำคัญให้ดี
See also  ล่องแก่งหนานมดแดง หรอยแรงแกงใต้ @พัทลุง - เที่ยวกับเพื่อน EP.37

ความสำเร็จในการสำรวจเขาพับผ้า

นั่งห้างกลางป่าดิบเขาต่ำ ll สยอง ไดอารี่ - YouTube

การสำรวจเขาพับผ้าเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำ ความลึกลับของพื้นที่นี้ทำให้นักท่องเที่ยวอยากกลับมาใหม่อีกครั้ง การนั่งห้างในป่าอาถรรพ์หรือตะลุยทหารชายแดนทำให้คุณได้สัมผัสความตื่นเต้นและความหลอนในคราวเดียวกัน ความสำเร็จในการสำรวจเขาพับผ้าไม่เพียงแค่ความสนุกสนาน แต่ยังเป็นการเปิดหน้าตาของเรื่องราวและตำนานที่น่าทึ่งในภูมิภาคนี้อีกด้วย

คำส่งถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. เขาพับผ้าคืออะไร?

เขาพับผ้าเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่อยู่ในจังหวัดตรังที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างดีในเรื่องของความลึกลับและสิ่งลึกลับต่างๆ

2. เขาพับผ้าน่าสำรวจหรือไม่?

ใช่ แน่นอน! เขาพับผ้าน่าสำรวจมาก มีทั้งป่าอาถรรพ์สวยงาม นั่งห้างเพื่อความสงบ และทหารชายแดนที่น่าตื่นเต้น

3. ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนเดินทางไปเขาพับผ้า?

ควรเตรียมตัวด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและอุปกรณ์เสริมเพื่อความสะดวกสบาย

4. มีสัตว์ประหลาดในเขาพับผ้าหรือไม่?

ในเขตป่าอาจมีสัตว์ประหลาด ควรระวังและหลีกเลี่ยงใกล้ชิดสัตว์ที่ไม่รู้จัก

5. มีบุคคลแปลกหน้าในเขาพับผ้าหรือไม่?

อาจมีบุคคลแปลกหน้าที่อาจมีแผนการที่ไม่ดีในการต่อสู้ ควรระวังและเก็บรักษาสิ่งต่างๆที่เป็นความลับ

คืนหลอนบนเขาพับผ้า #เขาพับผ้า #จังหวัดตรัง #นั่งห้าง #ป่าอาถรรพ์ #ทหารชายแดน #Ghostdevill [VIDEO]

 

เนื้อหาของวิดีโอ คืนหลอนบนเขาพับผ้า #เขาพับผ้า #จังหวัดตรัง #นั่งห้าง #ป่าอาถรรพ์ #ทหารชายแดน #Ghostdevill

เรื่องเล่าคืนหลอนบนเขาพับผ้า โดยคุณพ่อ ทันใดเล่าเรื่องนี้ให้กับผมฟังว่า ในช่วงปีพุทธศักราช 251 ท่านได้รับราชการทหาร และบรรจุลง ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ซึ่งในช่วงปีนั้นได้มีเหตุการณ์ความขัดแย้งกันในบ้านเมืองเราในชายขอบระหว่าง จังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง จะเป็นพื้นที่สีแดงซึ่งมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์หรือพอก็คงเป็นจำนวนมาก ที่มีฐานที่มั่นอยู่บนเทือกเขาบรรทัด ตลอดจนบริเวณเขาพับผ้าซึ่งทางการจะส่งทหารไปประจำการ ตั้งฐานปฏิบัติการบนเขาพับผ้าเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับพี่น้องประชาชน ท่านได้เล่าว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้อยู่ในช่วงเวลาที่ท่านกับเพื่อนว่าง จากการเข้าเวรยาม โดยสะสมกับจ่าพร ซึ่งเป็นนายทหารรุ่นพี่และปฏิบัติหน้าที่อยู่บนฐานแห่งนี้ก่อนคุณพ่อ แกได้เอ่ยปากชวนกับคุณพ่อผมว่าเอ้ยไอ้น้องพรุ่งนี้มึงไม่ได้เข้า เป็นนี่หว่าไปเดินป่ากับพี่ไมค์ เผื่อจะได้เจอสัตว์ จะได้เอากลับไปฝากที่บ้าน ตอนวันลาพัก พ่อของผมก็ตอบไปแบบไม่คิดอะไรว่า ไปครับพี่แต่ผมก็เลยบอกพ่อว่าให้เก็บสัมภาระ ปืนผาหน้าไม้ให้พร้อมพรุ่งนี้ 14 เราจะเดินทางกัน ซึ่งวันที่ออกเดินทาง ทั้งสามคนก็ได้เดินเท้าขึ้นไป ประมาณ 2 ชั่วโมง มันก็ใกล้จะค่ำแล้ว จ่าสมก็พูดมาว่ามันใกล้จะค่ำแล้ว เราหาต้นไม้ขัดห้างกันตรงนี้แหละ จะพรก็ตบตกลง เออตรงนี้แหละกูก็เหนื่อยแล้วอ่ะ ซึ่งคุณพ่อจะเล่านิสัยของจ่าพรให้ฟังว่า แกเป็นคนที่ปากสว่าง ไม่ค่อยสนใจอะไร คิดจะทำอะไรแกก็ทำ แต่แกก็เป็นคนที่รักพี่น้องนะ เอามาทั้ง 3 คนก็ได้ไปตัดไม้มาเพื่อจะขัดห้างและคุณเอาหินขึ้นมา เพื่อที่จะเอาไปทำเตาก่อไฟบนห้าง ซึ่งคุณพ่อกลับจากสงฆ์ก็ได้ไปตัดไม้ด้วยกัน โดนจับพรก็เป็นคนขูดหิน และเอาดินขึ้นไป ในระหว่างที่จะพร แก๊งขุดดินอยู่นั่น แกก็ขุดลงไปลึกประมาณ 1 ศอกได้ ก็เห็นเป็นเหมือนแจกันหรืออะไรสักอย่าง มีผิวคล้ายๆทองเหลือง แกก็เลยรีบขุดขึ้นมาดู ขอเอาขึ้นมาก็เห็นว่ามันเป็นเหมือนแจกันจริงๆแต่มันมีฝาปิด เป็นสีทองเหลือง รู้จักสภาพ ก็น่าจะเก่าพอควร แกก็เลยเรียกพ่อกับสะสมมาว่าพวกมึงมาดูนี่ กูชื่ออะไรก็ไม่รู้ หรือว่าจะเป็นไห่สมบัติของพวก พอก็พอที่แอบฟังไว้ว่า ตอนนั้นพ่อกลับสะสมก็ยืนมองเฉยๆไม่ทันได้พูดอะไร จากขอนแก่นก็เปิดฝาไหใบนี้ แล้วก็เทของข้างในออกมา และสิ่งที่เจอในไหคือ มีแหวนทองอยู่วงหนึ่ง ซึ่งอยู่ในห่อผ้าดิบสีขาวที่ห่อไว้ แต่ในหอผ้านี้ มันมีเหมือนชอบผมกระจุกหนึ่งและเศษผงอะไรสักอย่างสีเทาๆ ที่ขออยู่ในนั้นด้วย จับคนแก่ก็ว่าโชคดีแล้วกู เดี๋ยวกูจะเอาแหวนกับใครนี่กลับไปด้วย แกก็เลยเอาแค่แหวนกับหายใส่เป้ไป ส่วนห่อผ้ากับเศษเส้นผมนั้นแกก็โยนทิ้งไว้ใต้ต้นไม้ที่จะขัดข้างนั่นแหละ ต่อมาทั้ง 3 คนก็ได้สร้างห้างจนเสร็จ และทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย โต๊ะเด็กผ่าการขึ้นไปนั่งบนห้าง เวลาผ่านไปราวๆเกือบจะเที่ยงคืนก็ยังไม่เห็นสัตว์เดินผ่านสักตัว สะสมเลยพูดว่าเอออย่าบอกนะว่าขัดห้างรอบนี้จะได้กลับตัวเปล่า พ่อผมในตอนนั้นก็หลับๆตื่นๆอยู่เลยลุกขึ้นมานั่งคุยกับจ่าสมว่าไม่เป็นไร ถือว่าเรามาเดินเที่ยวพักผ่อนกัน สวนจับคนแก่ก็เอาผ้าห่มคลุมโปงนอนหลับหันหลังให้กับคุณพ่อ สักพักหนึ่งในป่ามันก็เงียบสนิท แม้แต่แมลงสักตัวก็ไม่ร้องเลย ลมก็ไม่พัด พ่อบอกว่าเชื่อใหม่ แอบได้ยินเสียงหัวใจเต้นเชียวซึ่งทั้ง 3 นายที่ไปกันนี้ ไม่มีใครมีวิชาอาคม หรือรูปเกี่ยวกับคาถาอะไรในการเดินป่าเลย แม้แต่กฎของการขึ้นลงข้างเวลากลางคืน ก็ไม่ได้รู้อะไรเลย อยู่ๆจ่าพรที่นอนหลับอยู่นั้น ก็มีอาการตัวสั่นและเกร็งไปทั้งตัว ตาเหลือกมองขึ้นไปข้างบน สะสมกับพ่อพ่อเห็นอย่างนั้นก็ไปเปิดผ้าห่ม แล้วจับตัวจับพรเขย่า จ๋าพรจ๋าพรตื่นตื่นแกเป็นอะไรวะ สะสมเรียก ก็บอกให้พ่อไปเอาขวดน้ำมา เอาน้ำราดหัวจ่าคอน ทั้งตบทั้งเขย่าเรียก อาการก็ยังเป็นอยู่แบบนี้ไม่ดีขึ้นเลย ในตอนนั้นพ่อบอกว่าความกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้มันมาจากไหนไม่รู้คือกลัวมากๆ คิดได้อย่างเดียวว่ามันไม่น่าปรกติแน่ๆสะสมแกก็ไม่รู้จะช่วยด้วยวิธีไหน แกก็เลยถอดพระที่คอมาสวมให้จะผ่อน ผ่านไปสัก 3 นาทีได้ อาการชักเกร็งก็เบาลง แต่จะผ่อนก็ยังนอนตาเหลือ มองข้างบนเหมือนเดิม คุณพ่อเลยคุยกับจ่าสมว่าพี่ส่งยังไงยังไงเราก็ต้องรอให้เขาก่อน กลับกันตอนนี้คงจะลำบากแน่ สักพักก็ได้ยินเสียงร้องไห้ขึ้นมา แต่มันเป็นเสียงร้องไห้ของผู้หญิง ลีน่าจะดังมาจากทางใต้ต้นไม้ที่ขัดฮ่าง คุณพ่อเลยสะกิดสะสม จะส่งพยักหน้าข้างแสดงอาการตอบว่าได้ยินเหมือนกัน ตอนนั้นพ่อบอกว่าแกก็ไม่รู้คิดยังไงตัดสินใจก้มลงไปดูเห็น พลังซึ่งพ่อก็ไม่ได้เปิดไฟฉายส่องลงไป เห็นเป็นผู้หญิงตัวดำเมี่ยม ผมยาวเป็นกระสือ ตัวผอมแห้งมีแต่หนังหุ้มกระดูกกำลังนั่งมองขึ้นมาที่พวกเรา พอก็ได้หันไปมองสบตากับร่างร่างนั้นพอดี ขอเห็นอย่างนั้นพ่อก็สะดุ้ง ลุกขึ้นมานั่งพิงกับต้นไม้ด้วยอาการตกใจกลัว สะสมก็เอามือมาตบที่เขาพ่อและมองหน้าด้วยอาการที่สงสัย แกก็เลยก้มลงไปดู ปรากฏว่าแกก็สะดุ้งขึ้นมาเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งสองนายได้มานั่งหันหลังพิงกัน ในมือข้างหนึ่งก็จับปืนอย่างแน่น ส่วนมืออีกข้างก็ต้องจับตัวของจ่าพรที่นอนตาค้างอยู่ แล้วสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นจนได้ ร่างผู้หญิงผอมโซร่างนั้น ได้ตะเกียกตะกายขึ้นมาบนห้าง เธอขึ้นมานั่งยองยองและจ้องมองไปที่จะพรและชี้นิ้วไปด้วย พ่อบอกว่าภาพที่เห็นตอนนั้น มันช่างติดตาซะเหลือเกิน ใบหน้าของร่างนั้น เป็นใบหน้าของหญิงแก่ กล่าวเปิดโครงใส่เสื้อผ้าเก่าๆขาดๆ มีสีหน้าที่โกรธเป็นอย่างมาก นิ้วมือที่ชี้ไปที่จะผ่อน ช่างเห*่ยวและลึกก็ดำน่ากลัวมาก คุณพ่อผมทั้งชีวิต บทท่องคาถาเป็นแค่นะโม 3 จบท่านก็ต้องอยู่แบบนั้นแหละ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร จ่าสมเลยตัดสินใจ เอาปืนอาก้าที่ถืออยู่ เปิดเซฟและยิ่งขึ้นฟ้าไป 3 นัดปังๆๆ เสียงดังก้องสนั่นป่า ส่วนร่างร่างนั้น ก็อันตรธานหายไป สะสมเลยบอกกับพ่อว่า คืนเรายังอยู่ที่นี่ต่อ คงจะได้ตายกันแน่งั้นเอาอย่างนี้เรากลับลงไปยังฐานตอนนี้เลยไหม ส่วนจับพรเดี๋ยวเราประคองมาเดินไปจะเดินไปถึงตอนไหนก็ช่างเถอะแต่ไม่ควร อยู่ที่นี่ต่อแล้ว ทั้งสองก็เก็บสัมภาระ และประคองตัวจากพรที่นอนตาค้าง ลงมาจากห้าง งานช่างทุลักทุเลเป็นอย่างมาก แต่ก็ทิ้งกันไม่ได้ ถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน นี่คือนิสัยของนักรบ เวลาที่เดินลงไปยังฐานตอนนั้นร้าวราว 2:00 น ได้ ระหว่างที่เดินทางนั้น ข้างหลังก็ได้ยินเสียงคนเดินตามมาตลอด บ้างก็ได้ยินเสียงร้องไห้ บ้านก็ได้ยินเสียงคนหัวไหล่ ตอนนั้นพ่อคิดอย่างเดียวคือ ต้องรีบไปให้ถึงฐานให้ได้ จะไม่หันไปมองข้างหลังเด็ดขาด เดินมาได้สัก สะสมก็บอกว่าเราหยุดกันตรงนี้ก่อน เพราะจะฮ้อนมีอาการเกร็งเดินไม่ได้แล้ว พวกเราก็หยุดให้จ่าพร ล้มตัวนอนลงในขณะนั้นจะพรแก่ได้ยกมือของแกขึ้นมา แล้วก็ชี้นิ้วไปที่กระเป๋าของแก พ่อก็เลยไปเปิดดู นั่นมันให้สีทองเหลืองนั่นนี่หว่าและในนิวที่แกชี้อยู่ก็สวมแหวนที่ขุด มาจากไข่ใบนี้ ขอและจ่าสมฤทธิ์ทราบได้เลย ว่าสาเหตุมันต้องมาจากของสิ่งนี้แน่ๆ ชีวิตคุณพ่อและสะสมก็ตัดสินใจ ผลัดกันแดดร่างของจ่า porn เธอรีบลงไปให้ถึงฐาน ขอคุณพ่อลงมาได้สักพัก คุณพ่อก็หาสัญญาณวิทยุได้ ท่านจึงวิทยุขอกำลังและบอกพิกัดให้ทหาร มาช่วยรับตัวทั้ง 3 นายออกไปหน่อย กว่าทหารจะมารับตัวพวกเขาไป เสียงผู้หญิงตนนั้น ก็มาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ข้อคิดในใจว่าเดี๋ยวถ้าลูกกลับไปได้ ลูกจะทำบุญไปให้ขอให้ศาลเจ้าทวดหลักเขตที่แบ่งจังหวัดตรังกับพัทลุง ซึ่งเป็นที่เคารพของพวกเราในละแวกนี้ ช่วยคุ้มครองลูกและสหายร่วมรบด้วยเถิดผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีก็เห็นไฟฉายส่อง ปั๊มทางเดินคุณพ่อเลยให้สัญญาณ ก็เห็นเป็นทหารที่ได้ขอกำลังไป ตอนนั้นพ่อได้จับมือกับจ่าสมแล้วพูดว่าที่เรารอดตายแล้ว จากนั้นทหารที่มาก็ได้เอาปริศนาแบกร่างของเจ้าฮอนไปจนถึงฐานปฏิบัติการ ศูนย์แพทย์สนามได้มาตรวจร่างกายของจ่าพร กวินวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นไข้ป่า ก็เลยรักษาตามอาการแต่อยู่มาอาการของแกก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยบางวันแกก็เพ้อ ชอบนั่งพูดอยู่ว่ามันมาแล้ว มันจะมาเอาแหวน หัวหน้าก็เลยเห็นท่าไม่ดี เลยมาถามคุณพ่อและจ่า ว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง คุณพ่อก็เลยเล่าให้ฟังว่าจะฮ้อนได้ไปขุดเจอให้และแหวน แกเลยเอาติดตัวมา หลังจากนั้น ก็เจอเหตุการณ์แปลกๆมาตลอด ทุกคนเลยตัดสินใจ พาไปหาพระที่วัดในพื้นที่ หลวงพ่อท่านก็รู้เลขทันที ว่าจะพรไปทำอะไรมา หลวงพ่อเลยพูดว่า พวกเอ็งเอาของเขามา ก็ต้องเอากลับไปคืนเขา ไม่นั้นเขาก็จะเอาชีวิตของเพื่อนเอ็งไปแน่ๆ นี่มันคือโกรธ ที่ใส่อัฐิคนใต้ไปเอาของเขามาทำไม เจ้าของเขาหวงของเขามาก กูก็ช่วยบอกพวกเอ็งได้เท่านี้แหละ และหลังจากนั้นได้แค่ 2 วัน จ่าพรก็มีอาการเพ้อหนักขึ้นเรื่อยๆ จนแก่ก็ได้เสียชีวิตลง ซึ่งตอนที่แกเสียชีวิตนั้น นิ้วมือของแก ข้างที่ใส่แหวนวงนั้นอยู่ มันบวมช้ำเป็นอย่างมาก สวนตาแกก็เปิดโพรงปักผ้ากว้าง เหมือนแกตกใจอะไรก่อนที่จะสิ้นใจลงในที่สุด ส่วนสิ่งของเหล่านั้น ทุกคนได้คุยกันแล้วว่า ให้ใส่ในโลงศพ ปิดตัวจับฮ้อนไปด้วยเลย เพราะแกอยากได้ก็ให้แกเอาไป หลังจากเหตุการณ์นี้ คอกกับจ่าสม ก็ขอย้ายกลับภูมิลำเนาเพื่อต้องการที่จะลืม เหตุการณ์ที่ต้องเสียพี่น้องร่วมรบ กับแค่ความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพวกเขา และเรื่องที่พ่อผมเล่าให้ฟัง ก็จบเพียงเท่านี้ครับ ฝากทุกๆท่านที่ชอบเรื่องเล่า ประสบการณ์หลอนช่วยกดไลค์และกดติดตามช่อง เผื่อไม่พลาดคลิปต่อๆไปด้วยนะครับ

See also  คาเฟ่ อุบล: สำรวจที่กินและที่เที่ยวที่มีเสน่ห์ในเมืองอุบลราชธานี